ในปัจจุบันเทคโนโลยีของโลกก้าวไกลไปมาก ซึ่งเทคโนโลยีที่ใช้ในวงการสิ่งพิมพ์ก็เช่นเดียวกัน มีการพัฒนาปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเจ้าเทคโนโลยีในการพิมพ์นี้ก็มีหลายแบบ มีลักษณะข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป แล้วยังงี้เค้าใช้เทคโนโลยีแบบไหนในการ รับพิมพ์ผ้า ละ? วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบกันครับ
เทคโนโลยีที่ใช้ในการ รับพิมพ์ผ้า
ก่อนอื่นเลยผมขออนุญาตพาไปรู้จักกับเทคโนโลยีสิ่งพิมพ์ในปัจจุบันก่อนนะครับ ว่ามีกี่แบบ และมีลักษณะแตกต่างกันอย่างไร
แบบที่ 1 การพิมพ์ด้วยระบบ Dye Sublimation : เป็นระบบการพิมพ์ที่ใช้การพิมพ์ลายลงไปบนกระดาษก่อน แล้วใช้ความร้อนในการรีดสีจากกระดาษให้ติดลงไปในเส้นใยผ้า โดยเทคโนโลยีรูปแบบนี้จะใช้ในการพิมพ์กับทุกผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากผ้า ไม่ว่าจะเป็น ธงผ้า, ป้ายผ้า หรือ Back Drop ผ้า มีข้อดีคือผ้าที่พิมพ์ด้วยเทคโนโลยีนี้จะได้สีที่ติดชัด ทนนาน สามารถซักและรีดได้ นำกลับมาใช้ซ้ำได้เรื่อยๆหลังจากทำความสะอาด
แบบที่ 2 การพิมพ์ด้วยระบบ UV : เป็นระบบที่พิมพ์แบบดิจิตอล ใช้วิธีการพิมพ์ลายโลโก้หรือรูปภาพต่างๆลงไปบนพื้นผิววัสดุโดยตรงด้วยรังสี UV ฉายลงไปบนหมึกเพื่อให้หมึกแห้งอย่างรวดเร็วโดยไม่ซึมลงไปในผิววัตถุ ทำให้ได้สีสันที่เด่นชัด เกาะทนนาน ค่าสีไม่เพี้ยนตรงตามที่ลูกค้าต้องการ นอกจากนี้ระบบนี้สามารถพิมพ์เคลือบใส (Spot UV) และพิมพ์นูนได้ด้วยความพิเศษนี้เองทำให้งานพิมพ์ยูวี เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน มีข้อดีคือสามารถพิมพ์ลงไปในวัตถุได้เกือบทุกชนิดที่มีผิวเรียบ จึงมักใช้ในการพิมพ์ลายลงบน PP Board, โฟมบอร์ด อะคริลิค หรือวัสดุอื่นๆ
แบบที่ 3 การพิมพ์ด้วยระบบ Latex : เป็นระบบการพิมพ์แบบหมึกน้ำ พิมพ์ลงไปบนพื้นผิวของวัตถุ มักใช้สำหรับการพิมพ์งานสติกเกอร์, โปสเตอร์, Back Drop กระดาษ และ Roll Up กระดาษ โดยเทคโนโลยีการพิมพ์แบบนี้จะไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้ในการรับพิมพ์ผ้า
จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการรับพิมพ์ผ้าก็คือ การพิมพ์ด้วยระบบ Dye Sublimation เพียงอย่างเดียว ส่วนการพิมพ์ด้วยระบบ UV และ Latex นั้นจะนิยมใช้กับการพิมพ์ลงไปในวัสดุแบบอื่นมากกว่า
สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้บริการ รับพิมพ์ผ้า
1. งานที่พิมพ์ : ก่อนอื่นเลยคุณต้องรู้เสียก่อนว่างานที่คุณทำเป็นงานแบบไหน มีขนาดเท่าไหร่ ควรใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบใด และที่สำคัญที่มักจะพลาดกันก็คือ อย่าลืมเปลี่ยนโหมดสีที่ทำในโปรแกรมให้เป็นโหมด CMYK ก่อนส่งโรงงาน
2. ประเภทของเนื้อผ้า : หลังจากที่คุณได้กำหนดขอบเขตงานแล้วก็ต้องไปข้อมูลเพิ่มเติมว่างานของเราเหมาะกับเนื้อผ้าแบบไหนบ้าง ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นการใช้พิมพ์สิ่งของจำพวก ธงผ้า หรือ Back Drop ผ้าที่ใช้ในงานอีเว้นท์ ถ้าให้ดีควรเลือกใช้เป็นผ้าที่เป็นเส้นใยสังเคราะห์ Polyester
3. ความน่าเชื่อถือของโรงพิมพ์ : อย่าลืมที่จะหาข้อมูลเกี่ยวกับโรงงานก่อนสั่งผลิตเสมอ ว่าตัวโรงงานเป็นอย่างไร มีประวัติเสียในเรื่องของการส่งมอบงานช้าหรือรับเงินไปแล้วแต่ไม่ผลิตของบ้างไหม หากคุณสั่งผลิตสินค้าเป็นจำนวนมากผมแนะนำให้ลองเข้าไปดูงานในสถานที่ผลิตดูสักครั้งนะครับ
ทำไมต้องใช้บริการรับพิมพ์ผ้ากับ Adlite
รับพิมพ์ผ้าหน้ากว้าง เครื่องพิมพ์ปกติจะสามารถพิมพ์ผ้าหน้ากว้างได้เพียง 160 ถึง 200 เซนติเมตรเท่านั้น ทำให้ต้องพิมพ์งานหลายชิ้นแล้วนำมาประกอบกัน แต่ทาง Adlite ใช้เครื่องพิมพ์แบบพิเศษที่สามารถพิมพ์ก้านกว้างได้ถึง 320 เซนติเมตร หรือก็คือสามารถพิมพ์ด้านความสูงได้ 320 เซนติเมตร และความกว้างไม่จำกัด สามารถพิมพ์ได้ยาวเป็นร้อยเมตร ซึ่งเหมาะกับงานพิมพ์ผ้าที่ต้องใช้ขนาดใหญ่พิเศษ เช่น งานพิมพ์กล่องไฟผ้าสำหรับ Booth และ Exhibition
เนื้อผ้า Polyester : ตัวผ้าของเราเป็นผ้าใยสังเคราะห์ Polyester ที่มีความหนาเป็นพิเศษทั้งหมด ทำให้เหนียวทนทาน ไม่ยับง่าย รักษารูปทรงได้เป็นอย่างดี ทำความสะอาดง่ายเนื้อจากตัวผ้าไม่ค่อยดูดความชื้นจึงแห้งเร็ว มาพร้อมการเคลือบสารพิเศษเพื่อป้องกันไฟลามไหม้ตัวผ้า เพื่อให้คุณมั่นใจว่าจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพและความปลอดภัย
หมึกจากญี่ปุ่น : ตัวหมึกทั้งหมดของเราใช้ยี่ห้อ Mimaki ซึ่งเป็นแบรนด์สียอดฮิตนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ทำให้งานพิมพ์ผ้าของเรามีสีสันที่สดใส คมชัด ไม่เพี้ยน และติดทนนาน ช่วยรักษาอายุการใช้งานของตัวผ้าพิมพ์ลาย เวลาซักหรือทำความสะอาดก็ไม่ซีดหรือหลุดลอก
สำหรับใครที่สนใจในบริการรับพิมพ์ผ้าแต่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มยังไง หรือผลิตภัณฑ์ของคุณเหมาะกับวิธีการพิมพ์ผ้าแบบไหนสามารถติดต่อเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดได้เลยครับ หากสนใจในบริการรับพิมพ์ผ้าของเราสามารถดู ผลงานการพิมพ์ผ้าของเราได้ที่นี่